《SF - toruka》Notes n words (1)

Advertisement

แปะ แปะ แปะ~

'ขอให้ชีวิตผมมีแต่เรื่องดีๆเข้ามาเถอะครับ'

ผมมองศาลเจ้าตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนที่สายลมอ่อนจะพัดมาปะทะที่ใบหน้าเบาๆ

อาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าเต็มที แสงสีส้มแดงบนท้อง

ฟ้ากลับทำให้ผมรู้สึกหว่าเว้มากขึ้นอีกเท่าตัว

ผมตัดสินใจเดินเตร็ดเตร่ตามถนนแทนที่จะกลับบ้าน

เสียงผู้คนพูดคุยกันจ้อกแจ้กถึงประเด็นร้อนที่พึ่งเกิดขึ้นได้ไม่นานมานี้ดังขึ้นทั่วทุกหนแห่งที่ผมได้ย่างกรายเข้าไป..

'เฮ้ ดูนั่นสิ ใช่ทากะรึป่าว'

'เฮ้ นั่นมันทากะนี่'

'เธอดูนั่นสิ ทากะนี่น่า'

'พ่อกับแม่หย่ากันงั้นหรอ เพราะอะไรถึงหย่าน่ะ'

'ทากะออกจาก news แล้วนะ'

'ออกจากวงการทำไมนะ อนาคตยังไปได้ไกลแท้ๆ'

'มีข่าวหลุดเรื่องผู้หญิงแหละ'

'ออกจากวงเพราะพ่อกับแม่รึป่าวนะ'

'เห็นบอกว่าออกจากวงเพราะเรื่องการเรียนแหละ'

'#฿%#&%฿%#&฿%฿&'

บรรยากาศที่เปลี่ยนไปจนผมรู้สึกอึดอัด สายตาและถ้อยคำต่างๆที่ผ่านเข้ามาในโสตประสาท

ผมรู้สึกว่ามันช่างทิ่มแทงจิตใจเหลือเกิน

ทั้งๆที่เป็นตัวผมแท้ๆ ทำไมทุกคนกลับทำเหมือนว่า

มันเป็นปัญหาของทุกคน ผมคิดว่าผมเข้มแข็งพอ

ที่จะเผชิญหน้ากับมัน แต่ไม่เลย มันยิ่งทวีความบอบ

ช้ำที่ผ่านมาให้มากขึ้นไปอีก หรือบางทีผมควรจะ

หาที่เงียบๆนั่งให้ผ่อนคลายแทนที่จะเดินเตร็ดเตร่ไปทั่วดีนะ

ผมเลือกร้านที่ค่อนข้างมีความเป็นส่วนตัวพอสมควร ส่วนใหญ่แล้วร้านนี้จะเป็นที่รู้จักของเหล่าคนมีชื่อ

เสียงพอสมควร บางครั้งคนมีชื่อเสียงก็อยากจะมา

นั่งดื่มทำตัวชิวๆ เหมือนคนทั่วไปเหมือนกัน

"รับอะไรดีครับ" บาร์เทนเดอร์ถามขึ้นเบาๆ หลังจากเห็นผมนั่งเงียบมาสักพัก

"อะไรก็ได้ครับ ขอกลางๆ" ผมยิ้มให้บาร์เทนเดอร์เบาๆ ก่อนจะฟุบหน้าลงไปอย่างเหนื่อยอ่อน

"คุณครับ ได้แล้วนะครับ" ผมผงกหัวเบาๆ เป็นการตอบรับ ก่อนจะหยิบยกแก้วใสทรงสูง รับของเหลวสีอำพันเข้าปาก ใบหน้าเหยเกเบาๆ กับรสชาติที่แสนจะขมขื่นนี้ ถึงรสชาติมันจะไม่ได้

เรื่องแค่ไหน แต่ทุกคนก็ยังทุ่มเงินให้กับมัน ทุกๆคนก็ยังต้องการมันทั้งในเวลาที่มีความสุข และความทุกข์

ผมนั่งมาได้สักพักก่อนจะมีคนร่างสูงที่ดูท่าทางทรง

สง่ามานั่งข้างๆกัน ก่อนจะสั่งเครื่องดื่มเบาๆ มือเรียวยาวสไลด์หน้าจอโทรศัพท์ไปมา แต่พอจ้อง

ดีๆ กลับเป็นข่าวของผมที่พึ่งเกิดเรื่องขึ้นได้ไม่นาน และข้อมูลต่างๆเกี่ยวกับตัวผม ไม่ว่าจะแหล่ง

ข้อมูลจากบอร์ดแฟน หรือกระทู้ข่าวต่างๆที่เคยมีมา

ผมได้แต่สั่งเครื่องดื่มแก้วแล้วแก้วเหล่า หวังว่าความขมขื่นที่ได้รับจากอำพันจะช่วยทุเลา

ความเจ็บปวดภายในใจได้บ้าง แค่สักนิดก็ยังดี

"ผมว่าคุณดื่มหนักไปแล้วนะครับ" เสียงบาร์เทนเดอร์ดังขึ้นอย่างร้อนรน และพยายามยื้อแก้วเหล้าในมือของผมไว้ ก่อนที่เสียงแหบทุ่มจะดังขึ้น

"ผมจัดการเองครับ"

ผมหันไปมองต้นเสียงอย่างเสียมารยาท ก่อนจะเอ่ยเสียงขุ่นออกมาด้วยความไม่พอใจ

"อยากจะรู้อะไรล่ะ" แต่ดูเหมือนอีกคนจะไม่มีทางทีทุกข์ร้อนอะไรเลย กลับยกยิ้มที่มุมปากก่อนจะเลื่อนนามบัตรมาตรงหน้า

Yamashita toru

Leader of one ok rock bands

Phone : 0XXXXXXXXXX

'หัวหน้า? วงอะไรเนี้ย ไม่เห็นจะเคยได้ยินชื่อ'

ผมได้แต่ถือนามบัตรตรงหน้าและมองอย่างไม่วางตา ก่อนที่อีกคนจะพูดขึ้นมา

"ที่เป็นอยู่ตอนนี้มันยังไม่ถึงที่สุดของนาย"

"..." ผมได้แต่มองหน้าอย่างไม่เข้าใจ นี่หมอนี่คิดว่าตัวเองเป็นใครกัน

"นายเองก็รู้สึกเหมือนกันใช่มั้ย ว่ามันยังไม่ใช่"

"นายจะพูดอะไรกันแน่"

"จริงๆแล้ววงเราขาดนักร้อง และฉันก็สน.."

"ไม่ล่ะ ฉันไม่อยากเข้าวงการแล้ว"

"ลองคิดดูดีๆนะ เพราะฉันตัดสินใจแล้วว่านายเท่านั้นที่จะมาเป็นนักร้องของวงนี้"

"..หึ" ผมแค่นหัวเราะออกมาก่อนจะจรดริมฝีปากที่แก้วอีกครั้ง ก่อนจะวางตังค์จำนวนหนึ่ง และลุกออกไป จากร้าน

ผมเดินเตร็ดเตร่ไปมาได้พักนึง ก่อนจะสังเกตว่ามีคนกลุ่มหนึ่งตามมา

'นักข่าวหรอวะ เอาไงดี' ผมพยายามเดินออกมาแถบๆทางเท้าด้านนอก และสอดส่องมองหารถแท็กซี่

ผมกึ่งเดินกึ่งวิ่งไปตามถนนอย่างร้อนร้น นี่พระเจ้าจะรังแกผมไปถึงไหน แค่เรื่องที่มันถาถมมาในตอนนี้ยังไม่พอ ยังจะให้ผมขาสั้นอีก ผมทำอะไรผิดนักหนา!

"เร็วเข้าๆ จะหนีไปแล้ว" เสียงนักข่าวที่พากันวิ่งกรูเข้ามา ยิ่งทำให้จิตใจผม

ปั่นป่วนไปหมด ไม่รู้จะหนีไปจากตรงนี้ได้ยังไง แต่ก็เหมือนพระเจ้าจะยังเห็นใจ เมื่อมีรถคันสีดำ

มาจอดเทียบข้างฟุตบาท ก่อนจะลดกระจกลงมา

เพื่อเอ่ยชวน

"ไปกับฉันสิ ฉันจะไปส่ง"

"นาย!?" ผมได้แต่มองด้วยความไม่เข้าใจ นี่อย่าบอกนะว่าหมอนี่ตามผมมา

"ว่าไง จะไปมั้ย" ผมอึกอักเล็กน้อยก่อนจะตัดสินใจขึ้นรถ เมื่อเห็นว่านักข่าวที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ ไม่นานนักรถสีดำก็แล่นอยู่ท่ามกลางถนน ผมได้แต่ถอนหายใจเบาๆ อย่างโล่งใจ มือเรียวกดเครื่องเล่นเพลง ก่อนที่เสียงดนตรีที่มีทำนองแปลกหูจะดังขึ้น เสียงดนตรีที่น่าดึงดูดและความหนักแน่นของทำนอง มันค่อนข้างกระชากใจผมได้เป็นอย่างดี ผมโยกหัวหัวไปตามจังหวะดนตรีเบาๆ ก่อนที่อีกคนจะหลุดยิ้มออกมาด้วยความพอใจ

"ฉันอยากให้นายคิดดูใหม่นะ"

"ทำไมถึงเลือกฉันล่ะ"

"เพราะฉันสนใจเสียงของนายยังไงล่ะ"

"เสียงแบบนี้หาที่ไหนก็เจอ"

"ก็ใช่ แต่สิ่งที่นายมีตอนนี้จะหาได้จากใครล่ะ ถ้าไม่ใช่จากนาย"

"สิ่งที่ฉันมี?"

"สักวันนึงนายจะเข้าใจ"

"ถ้าฉันไม่เข้าใจล่ะ"

"งั้น..สักวันนึงฉันจะบอกนายเอง"

"..." หลังจากนั้นระหว่างเราก็ไม่มีใครพูดอะไรอีกเลย จนกระทั่งรถมาจอดอยู่ที่หน้าบ้านของผมแล้ว

"ฉันเชื่อว่าวงจะไปได้ไกลแน่ๆ ถ้าฉันมีนายไปด้วย"

.

"กลับมาแล้วครับ"

"พี่ครับ.." เสียงหวานของน้อยชายตัวเล็กดังขึ้น ผมพยักหน้ารับเบาๆ

"ว่าไง" ผมขยี้ผมเบาๆอย่างเอ็นดู ก่อนจะเดินไปหาแม่ที่อยู่อีกมุมหนึ่งของบ้าน

"แม่ครับ ไม่เป็นอะไรนะครับ" ผมพูดเบาๆ ก่อนจะกอดแม่ไว้ในอก

"พ่อแกจะเอาน้องแกไปอยู่ด้วย"

"...!!"

"ทากะ.."

"แล้วน้องรู้เรื่องนี้รึยังครับ"

"รู้แล้ว แต่แม่ไม่รู้จะทำยังไง แม่พูดอะไรไปพ่อแกก็ไม่ฟัง น้องติดแกงอมแงม ถ้าไม่ได้อยู่กับแกล่ะก็ต้องร้องโฮแน่ๆ"

"ผมจะพูดให้เองครับแม่ แม่พักผ่อนเถอะครับ" พูดพูดพร้อมกับประครองแม่ไปที่เตียง ก่อนจะขับกล่อมเพลงให้ฟังจนหลับไป

เมื่อเดินออกมาก็เจอร่างบางนอนหลับปุ๋ยอยู่บนเตียง มีร่องรอยของคราบน้ำตาอยู่บนใบหน้าใส ผมอดรู้สึกใจหายไม่ได้ที่ต้องเกิดเรื่องราวแบบนี้ ผมเอื้อมมือไปเช็ดร่องรอยน้ำตาของคนตรงหน้าเบาๆ ก่อนที่คนตรงหน้าจะลืมตาขึ้นมาอย่างงุนงง

"โทษที พี่ทำให้นายตื่นหรอ" ผมยิ้มพร้อมกับลูบหัวเบาๆ

"ไม่หรอกครับ" ผมระบายยิ้มอ่อนๆ ก่อนจะพาคนตัวเล็กกว่าไปห้องที่ห้อง และร้องเพลงกล่อมจนหลับไป ผมได้แต่มองดูใบหน้าหวานใส ที่นอนหลับตาพริ้มอยู่ในขณะนี้ ก่อนจะตัดสินใจโทรหาผู้มีพระคุณอีกคน

[ว่าไง]

"ผมขอเวลาให้น้องอีกหน่อยได้มั้ยครับ" ผมรู้ดีว่าถ้าผู้เป็นพ่อได้ตัดสินใจไปแล้ว คงยากที่จะทำให้เปลี่ยนใจไป

[...]

"น้องคง.."

[น้องแกไม่ใช่เด็กๆแล้วนะ]

"ครับผมรู้ครับ แต่ช่วยกรุณาเลื่อนเวลาออกไปซักหน่อยได้มั้ยครับ"

[พรุ่งนี้ตอนเย็นๆ ฉันจะไปรับ]

"ขอบคุณครับ"

.

ดิสนีย์แลนด์

ผมพาน้องชายมาสวนสนุก เพื่อหวังจะสร้างความทรงจำดีๆ ก่อนที่เราจะต้องจากกันไป

"พี่ครับๆ ผมอยากกินไอศรีมจังเลยครับ" มือเล็กกนะตุกชายเสื้อเบาๆ ก่อนจะชี้นิ้วไปที่ร้านไอศครีมที่ตอนนี้มีคนต่อคิวยาวแน่น ประดุจแจกฟรี แต่ทำยังไงได้ล่ะ ผมก็ต้องไปซื้อให้เจ้าตัวอยู่ดี

"งั้นนั่งรออยู่ตรงนั้นนะ อย่าไปไหนล่ะ" ผมก้มลงพร้อมกับชี้ไปที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ ก่อนจะเดินไปเข้าแถวต่อคิว

.

ผมเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าเด็กผู้ชายคนนึง ที่ตอนนี้กำลังนั่งลงกับพื้น ก้มดูรอยถลอกที่เข่าขาว ก่อนจะลูบไปมาอย่างเบามือ

"ว่าไงเจ้าตัวเล็ก ไปล้มที่ไหนมาฮึ"

"อ้ะ ผมวิ่งไล่ลูกหมาน่ะครับ แต่ก็สดุดขาตัวเองล้มซะได้" คนตัวเล็กพูดก่อนจะยิ้มอย่างเขินอาย ผมรู้จักเขาดี เขาคือฮิโรกิ เป็นน้องชายแท้ๆของทากะฮิโระ

"เจ็บมั้ยฮึ" ผมลูบหัวเจ้าตัวเล็กเบาๆ ก่อนจะอุ้มร่างบางไปนั่งที่ม้านั่ง และปฐมพยาบาลเบื้องต้นให้

"ขอบคุณครับพี่.."

"โทรุครับ แค่รอยถลอกน่ะแผลไม่ลึกมาก คงไม่เป็นแผลเป็น ถ้านายดูแลดีๆ"

"ครับพี่โทรุ" รอยยิ้มที่สดใสที่ดวงตาเคยฉายแววกังวลใจ ตอนนี้ได้เปลี่ยนเป็นความโล่งใจไปแล้ว

ผมนั่งคุยกับฮิโรกิอย่างสนุกสนาน ก่อนที่จะมีเสียงใคาซักคนขัดจังหวะขึ้นมาซะก่อน

"ฮิโรกิ!" เสียงใสๆแบบนี้ ทำผมอดยิ้มไม่ได้ ก่อนจะกลับมาตีหน้าขรึมเหมือนเดิม

"พี่ครับ" ฮิโรกิโบกมือไปมาอย่างดีใจที่เห็นหน้าพี่ชาย

"ไง" ผมหันหน้าไปตามต้นเสียงก่อนจะยิ้มทักทายเบาๆ

"นาย..!!"

------------------

หายไปนาน มากกกกกกกกกกกกกกก! ประหนึ่งว่าตายจากโลกนี้ไปแล้ว แต่จริงๆคืองานเยอะมาก สอบก็เยอะมาก ต้องเตรียมตัวเข้ามหาลัยเช่นกัน แอบสดุ้งทุกครั้งที่มีโหวตเพิ่ม // สัญญาว่าถ้าทุกอย่างเรียบร้อยแล้วจะกลับมา

    people are reading<SF - toruka>
      Close message
      Advertisement
      You may like
      You can access <East Tale> through any of the following apps you have installed
      5800Coins for Signup,580 Coins daily.
      Update the hottest novels in time! Subscribe to push to read! Accurate recommendation from massive library!
      2 Then Click【Add To Home Screen】
      1Click